Travel to Singapore with Kids
สิงคโปร์ ประเทศเพื่อนบ้าน ที่ใช้เวลาเดินทางจากไทยแค่ 2 ชั่วโมงนิด ๆ อากาศ อาหารการกิน คล้าย ๆ บ้านเรา เที่ยวง่าย ไปเองได้ แม้ว่าจะเดินทางไปพร้อมกับเด็ก หรือจะเป็นมือใหม่หัดเที่ยวต่างประเทศก็ตาม เดี๋ยวมี๊จะเล่าให้ฟังนะคะ ว่าการเตรียมตัวเที่ยวสิงคโปร์นั้น ต้องทำอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
การหาตั๋วเครื่องบิน
บ้านนี้จะหาตั๋วเครื่องบินจาก https://www.skyscanner.net/ ค่ะ ใส่เมือง วันที่เดินทาง จำนวนคน กดค้นหา เวปจะประมวลผลมาให้เราเลือกหลายสายการบินเลยค่ะ ถูกใจอันไหนก็เลือกอันนั้น แต่ปกติแล้ว มี๊จะกลับไปดูที่เวปตรงของสายการบินอีกครั้งด้วย เพื่อเปรียบเทียบราคา บางทีอาจจะมีโปรโมชั่นก็ได้ค่ะ
การจองโรงแรม
เมื่อเราได้ตั๋วเครื่องบินแล้ว นั่นคือเราจะไปเที่ยวๆ แน่นอน ขั้นตอนต่อไปก็คือการหาที่พัก ซึ่งแต่ละคนก็จะมีเงื่อนไขของแต่ละบ้านต่างกันออกไป เช่น ที่พักต้องเป็นโรงแรม ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง อยู่ในเมือง เป็นต้น เราสามารถหาราคาโรงแรมได้จาก Trip.Com หรือจาก klook
การจองกิจกรรม
ต่อมาเราก็มาวางแผนการท่องเที่ยว โดยดูจากเวลาของทริปที่เรากำหนดไว้ วันแรกของการเดินทางอาจจะเน้นเดินเล่น เพราะกว่าจะลงจากเครื่องบิน ผ่าน ตม. เข้าโรงแรม เช็คอิน ก็ใช้เวลาเยอะอยู่ ดังนั้นเราจะเลือกทำกิจกรรมในวันที่เราอยู่เที่ยวเต็ม ๆ คือวันที่ 2 และ 3 โดยกิจกรรมที่น่าสนใจของสิงคโปร์อันดับหนึ่งนั่นก็คือ Universal Studio Singapore ซึ่งสามารถหาซื้อตั๋วได้จาก Klook และในบางครั้งยังมีส่วนลดเพิ่มอีกด้วย การใช้งานก็ง่าย เพียงสแกน QR Code จากหน้าจอโทรศัพท์เลย นอกจากตั๋วเข้าสวนสนุกแล้ว ก็ยังมี บัตร 𝗞𝗹𝗼𝗼𝗸 𝗣𝗮𝘀𝘀 ที่สามารถเลือกเที่ยวได้ถึง 2, 3, 4 หรือ 5 แห่ง เช่น สวนสนุกยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์, การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์, กระเช้าลอยฟ้าสิงคโปร์, สกายเฮลิกซ์ เซ็นโตซ่า, ชิงช้าสวรรค์สิงคโปร์ ฟลายเออร์, สวนสัตว์สิงคโปร์, ทัวร์ล่องเรือบนแม่น้ำ และทัวร์เที่ยวชมเมืองโดย Big Bus เป็นต้น
Klook.com Trip to Singapore
และแล้วก็มาถึงวันเดินทาง โดยแผนการเดินทางของเราคือ
20 ต.ค. 65 ออกเดินทาง
21 ต.ค. 65 Universal Studio Singapore
22 ต.ค. 65 DUCKtours และ Singapore Flyer
23 ต.ค. 65 เดินทางกลับบ้าน
โดยเราพักโรงแรม 2 ที่ คือ YOTEL Singapore Orchard Road 2 คืน และ Singapore Marriott Tang Plaza Hotel 1 คืน
Day 1
ขาไปเราบิน 𝗝𝗲𝘁𝘀𝘁𝗮𝗿 ออก 8.40 ป๊ามี๊ ตื่นตี4 อาบน้ำแต่งตัว ปลุกเด็กตี 5 ออกจากบ้านไม่เกิน ตี5ครึ่ง ถึงสุวรรณภูมิ 6 โมงนิดๆ เช็คอินเสร็จ 6.40 น. บ้านเราเอากระเป๋าขึ้นเครื่อง 2 ใบ มีกระเป๋าผ้าใส่หมอนและผ้าห่มอีก 1 ใบ ไม่โหลดจ้า มี๊งก 





สรุป มี๊ได้มื้อเช้ามาฟรีจากบัตรต่างๆ ที่มี คุ้มไปเลยค่า







แวะถ่ายรูปกับน้ำตกนิดนึง



เช็คข้อมูลการทำบัตรโดยสารเด็กได้ที่นี่
ถึงที่พักแล้วค่ะ ที่พัก 2 คืนแรกของเราคือ YOTEL Singapore Orchard Road ทำเลดี ที่พักสะอาด มีห้องสำหรับ 3 คนด้วย แต่เราอยู่กัน 4 คน ก็ไม่ได้อึดอัดมากค่ะ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช็คอิน เก็บของเข้าห้องแล้ว ก็ไปเที่ยวต่อได้ค่ะ
รีวิวฉบับเต็ม YOTEL
ร้านอาหารเย็น
ไปสิงคโปร์ ไม่กิน 𝗖𝗵𝗶𝗹𝗹𝗶 𝗖𝗿𝗮𝗯 เหมือนไปไม่ถึง แต่จะกินร้านไหน ยังไงดี มี๊เลือกร้าน House of Seafood สาขา Clarke Quay นี้เลยค่า เพราะว่าเค้ามีโปรโมชั่น ลด 50% กันเลยทีเดียว จ่าย $99 ทานได้ถึง $200 คุ้มสุดยอดค่า
รีวิวฉบับเต็ม House of Seafood
Day 2
ออกจากโรงแรมแต่เช้า เพื่อมาหาข้าวเช้ากินที่ห้าง Vivo City ก่อนเข้า Universal Studio Singapore เวลา 11.00 น. ซื้อบัตรผ่านประตูไปก่อน ช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ พาเด็กเที่ยวสวนสนุก 1 วัน ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง อ่านต่อที่นี่เลยค่ะ

Day 3
ย้ายที่พักไป Singapore Marriott Tang Plaza Hotel โรงแรมอยู่ตรงข้ามกัน ถามว่าย้ายทำไม ย้ายเพราะป่ะป๊าเป็นสมาชิก Bonvoy มีแต้มแลกที่พักฟรี 1 คืนจ้า เอากระเป๋าฝากไว้ก่อน แล้วไปเที่ยวกันต่อ
ที่แรก DUCKtours
ที่ 2 Singapore Flyer
รีวิวฉบับเต็ม DUCKtours และ Singapore Flyer
ที่ 3 Far East Organization Children’s Garden
สนามเด็กเล่นกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ตั้งอยู่ใน Gardens by the Bay ที่นี่เข้าฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย มีของเล่นหลากหลายทั้งโซนเปียกและโซนแห้ง
รีวิวฉบับเต็ม Children’s Garden
กลับที่พัก Singapore Marriott Tang Plaza Hotel โรงแรมหรู ระดับ 5 ดาวใจกลางถนนออชาร์ด
รีวิวฉบับเต็ม Singapore Marriott Tang Plaza Hotel
Day 4
วันสุดท้ายแล้ว นอนโรงแรมสบาย ๆ ไม่รีบ เพราะเครื่องออก 15.45 น. เช็คเอ้าท์เที่ยงหน่อย ๆ ก็พอดีได้เวลาไปสนามบิน พอถึงสนามบินได้ Boarding Pass แล้ว ผ่าน ตม. จะไม่มีการตรวจกระเป๋าตรงนี้ ของกิน ขนม น้ำดื่ม เอาเข้าไปทานได้ค่ะ ตรวจกระเป๋าอีกครั้ง หน้าเกทเลย ก่อนเข้าเกทแวะซื้อของ Duty Free ได้ และสำหรับลูกค้าบัตร JCB Platinum หรือ JCB Ultimate ที่ออกบัตรในประเทศไทยสามารถใช้บริการห้องรับรองในสนามบินได้ โดยบ้านเราได้ใช้บริการที่ SATS Premier Lounge ที่ Terminal 1 ทั้งอาหารและเครื่องดื่มจัดเต็มมาก
รีวิวฉบับเต็ม SATS Premier Lounge
เครื่องของ Scoot เป็น Boeing 787 เครื่องใหญ่ ที่นั่ง 3-3-3 นั่งสบายมาก
กลับบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ ทริปนี้ทั้งสนุก และเหนื่อย แต่ทุกคนก็มีความสุขมากกับการได้ไปเที่ยว เปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยกัน ไว้ทริปต่อไปมี้จะเก็บข้อมูลมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ
แล้วเจอกันทริปหน้าค่ะ
ฝากเพจ กด Like + Share + Subscribe ด้วยค่ะ
หรือไปพูดคุยกันได้ตามข้างล่างนี้เลยนะคะ
https://www.facebook.com/twolittlebosses/
https://www.youtube.com/2littlebosses
แล้วเจอกันทริปหน้าค่ะ
ฝากเพจ กด Like + Share + Subscribe ด้วยค่ะ
หรือไปพูดคุยกันได้ตามข้างล่างนี้เลยนะคะ
https://www.facebook.com/twolittlebosses/
https://www.youtube.com/2littlebosses