เที่ยวเลโก้แลนด์ มาเลเซีย 3 วัน 2 คืน
LEGOLAND Johor Bahru, Malaysia 3 Days 2 nights with kids

บ้านไหนกำลังมองหาสถานที่พาลูกเที่ยวง่าย ๆ ไม่ไกล ไม่แพง
แม่เปิ้ลขอเสนอที่นี่เลยค่ะ ยะโฮร์บาห์รู มาเลเซีย แค่ 3 วัน 2 คืนก็เที่ยวได้ เที่ยวง่าย ไม่แพงด้วยค่ะ

เราเลือกเดินทางขาไปที่เมืองยะโฮร์บาห์รู ประเทศมาเลเซีย เที่ยวบิน FD 510 ให้บริการวันละ 2 เที่ยวบิน เราเลือกเวลา 12.00 น. ถึงยะโฮร์บาห์รู เวลา 15.15 น. เวลาที่มาเลเซียเดินเร็วกว่าไทย 1 ชม. 
ลงจากเครื่อง เดินเข้าอาคารผู้โดยสารได้เลยค่ะ สนามบินไม่ใหญ่มาก ผ่าน ตม. ง่าย สะดวก และรวดเร็วมาก ไม่ต้องกรอกเอกสารใด ๆ เลยค่ะ รอรับกระเป๋า ไม่นาน แล้วทุกคนก็ต้องนำกระเป๋าผ่านเครื่องสแกนด้วย และเราก็มีเหตุระทึกขวัญคือ รถเข็นเด็กมีน้อตหลุดออกมาแถวๆ ล้อ ไม่น่าจะรอดทริป 3 วัน บอกเจ้าหน้าที่แถวสายพานรับกระเป๋า เค้าพาไปเคลม ถามว่ามีประกันมั๊ย พอบอกมี ก็จัดการออกใบเคลมให้เรียบร้อย ใช้เวลาไม่นานเลยค่ะ ที่นานกว่าคือ หาที่นั่งซ่อมล้อให้พอเข็นต่อไปที่โรงแรมได้ก่อน

เดินทางกันต่อ เราซื้อซิมอินเตอร์เน็ตจาก Klook ไว้ ร้านที่รับซิม อยู่ด้านหลัง Information counter เลยค่ะ รับกระเป๋าเสร็จแล้วเดินตรงออกมาไปทางขวาก็จะเจอ หาง่ายมาก แต่รอคนขายนานมาก สงสัยไปเข้าห้องน้ำ ... 😥
ระหว่างรอรับซิม เราก็ไปสำรวจวิธีไปโรงแรม ลองกดดูราคา Grab อยู่ที่ MYR 57 

ลองเดินไปถามที่ Coupon Taxi Counter ตอนแรกบอก 44 พอมองเห็นรถเข็นเด็ก เพิ่มเป็น 45 เลย ก็ยังดี เพิ่มเหรียญเดียว ครอบครัวที่มาถามถัดจากเรา ตอนแรกบอก 45 พอบอกมีกระเป๋า 4 ใบ เพิ่มเป็น 67 เลยทีเดียว

พอได้ซิมเรียบร้อยก็กลับมาขึ้นแท็กซี่ไปโรงแรม ประมาณ 40 นาทีก็ถึงโรงแรมแล้ว รถไม่ติดเลย ถือว่าไว และสะดวกมาก
คืนแรกเรานอนที่ KSL ใช้เวลาเช็คอินนานพอสมควร พนง.บอกต้องจ่ายค่า Room tax อีก MYR 10 เราก็งง ในใบจองไม่ได้บอกไว้ 
แต่เค้าตั้งป้ายไว้เลย ต้องจ่ายทุกคน อ่ะ..ก็จ่ายไป ได้ใบเสร็จและ Key card มาพร้อมคูปองอาหารเช้า 2 ใบ และคูปองผ้าเช็ดตัวที่สระน้ำ 1 ใบ แอบงกนะเนี่ย ถ้าเล่นน้ำ 2 รอบ ต้องพกผ้ามาเองจากห้องด้วยอ่ะ 😥
ห้องพักเราอยู่ Tower 1 ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 21 เป็นห้องห้องซูพีเรียทวิน มีเตียงใหญ่ 1 และเตียงเล็ก 1 เตียง

เก็บข้าวของเรียบร้อย รีบลงมาเล่นน้ำที่สวนน้ำไดโนเสาร์ ถึงเป็นแขกพักโรงแรมก็ต้องเสียค่าเข้าค่ะ คนละ 10 ริงกิต สวนน้ำที่นี่ไม่ใหญ่มาก มีธีมไดโนเสาร์ ทางเข้าเป็นปากไดโนเสาร์ และมีรูปปั้นไดโนเสาร์หลายตัวอยู่ เด็ก ๆ เดินตรงไปส่วนที่เป็นสระเด็กเลยค่ะ ตอนเราเข้าไปก็เกือบ 5 โมงแล้ว ที่นี่ปิด 1 ทุ่ม มีเวลาเล่นแป๊บเดียว ต้องรีบทำเวลา เด็กเล่นไสลด์ไปหลายรอบมากค่ะ เดินวนไปวนมา ก็สนุกดีตามภาษาเด็กๆ ค่ะ แต่ถ้าต้องเสียราคาเต็ม เราว่าไม่คุ้มเลยค่ะ สวนน้ำบ้านเราสนุกและใหญ่กว่าเยอะเลย ไม่แพงด้วยค่ะ
พอใกล้ 1 ทุ่มคนออกเกือบหมดแล้ว ตอนแรกกะจะออกไปเล่นน้ำสระต่อ แต่เด็กบอกหนาว เลยรีบไปอาบน้ำ ห้องอาบน้ำอยู่ด้านหลังเค้าเตอร์ผ้าเช็ดตัว มีโซนห้องน้ำ และห้องอาบน้ำแถมมีห้องซาวน์น่าด้วย
ในห้องน้ำมีล็อกเกอร์ มีสบู่บริการด้วยค่ะ สะอาด กว้างขวางดีมากเลย รีบอาบน้ำเด็กๆ แล้วไปหาอะไรกินที่ห้างข้างโรงแรมกันต่อค่ะ
มื้อเย็นเดินไปเจอ KFC จัดไปง่าย ๆ ค่ะ คนเยอะ คิวยาวมาก ไม่ได้เพราะขายดี แต่เพราะ พนง. มีคนเดียว และคิดเงิน+จัดของช้ามากค่ะ ยืนรอกันไป ราคาอาหารพอๆ กะบ้านเราเลยค่ะ พอได้ไก่มา ปรากฏว่าเป็นไก่เผ็ดหมดเลย เด็กกินได้แค่เฟร้นฟรายกะไอติม รสชาติไก่ บ้านเราอร่อยกว่า กินเสร็จเดินออกมาสำรวจหน้าห้าง ของกินเยอะเลยค่ะ แต่เด็กงอแงไม่ไหวแล้ว รถเข็นก็ไม่ได้เอามา อุ้มกันไป อุ้มนานไม่ไหว ขึ้นห้องนอนเล่นดีกว่า จบไป 1 วันอย่างรวดเร็ว

🌟🌟🌟🌟 🌝 🌟🌟🌟🌟

เช้าวันที่2

เด็กตื่นกันแต่ 7 โมงเช้า อาบน้ำแต่งตัว 8 โมงครึ่งก็ลงมากินข้าว อาหารบุฟเฟ่ทั่วไป แต่รสชาติไม่ถูกปากเราเท่าไหร่ค่ะ ไก่เค้าผักเครื่องเทศเยอะๆ มันขมอ่ะ ส่วนเด็กๆก็กินแค่ไข่ดาว กะไส้กรอก ดีที่มีข้าวผัดกับหมี่ผัดถูกใจเด็ก ๆ ค่ะ

 เสร็จแล้วขึ้นเก็บของ Check out เกือบ 10 โมง เสร็จแล้วเรียก Grab ไป Legoland ราคา 29 ริงกิตค่ะ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ถึงโรงแรมแล้วก็เอากระเป๋าไปฝากไว้ แล้วไปรอเช็คอิน เราโชคดีไปถึงเร็วคนยังไม่เยอะ รอไม่นาน พนง. บริการดีมาก ใช้เวลาสักพัก ก็ให้เซ็นชื่อ และจ่ายเงิน 10 ริงกิตเหมือนโรงแรมเมื่อวานเลย ได้ใบเสร็จพร้อมซองที่ระบุเลข Booking เค้าบอกให้เอาเลขที่ซองโชว์กับ พนง. เพื่อรับห้องได้ตอน 4 โมงเย็น แต่ก็มีบอกว่าหลัง 3 โมงลองมาเช็คห้องดูก่อนได้นะ ถ้าห้องเสร็จแล้วก็อาจจะได้เลย แล้วเราขออุปกรณ์ที่มัดได้เพื่อซ่อมรถเข็น แบบเป็นพลาสติกที่ล็อคกระเป๋า
นางไปหาให้ 2 รอบ แล้วก็ได้มา 4 ชิ้น โชคดีมาก ไม่งั้นรถเข็นคงใช้ไม่ได้ เสร็จแล้วบอกว่า ใช้ลิฟท์กดลงไปชั้น LG2 ออกประตูหลังโรงแรมเพื่อเดินไปเข้าสวนสนุก ใกล้มาก สะดวกสุด ๆ
ออกจากประตูโรงแรม ทางซ้ายเป็นสวนน้ำ ทางขวาเป็นสวนสนุก กับ Sea life แม้จะเป็นวันเสาร์ แต่คนไม่เยอะเลยค่ะ เราซื้อตั๋วแบบ 2 Days Pass เข้าได้ทั้ง 3 ที่กับ Traveloka มาแล้วในช่วงที่มีลดราคา 
ผู้ใหญ่ 2 ใบ @ 2,137 บาท เด็ก 1 ใบ @ 1,578 บาท ต่ำกว่า 3 ขวบไม่เสียค่าเข้า ที่แรกที่เข้าไปคือ Sea Life เราปริ้นบาร์โค้ดไป ใช้สะดวกมากค่ะ ยื่นให้เจ้าหน้าที่สแกน เสร็จ 3 ใบเข้าได้เลย จะมีถามหน่อยนึงว่าวันแรกหรือวันที่ 2 ก็บอกวันแรก จนท. บอกเข้าออกได้ไม่จำกัด ภายใน 2 วัน เพียงแต่ต้องสแกนบาร์โค้ดทุกครั้งเท่านั้นเอง รถเข็นสามารถเข็นเข้าไปได้เลยค่ะ ทางกว้าง มีลิฟท์ด้วย สะดวกสุด ๆ แต่ภายในไม่ใหญ่มาก ไม่มีโชว์ให้อาหารใด ๆ เทียบกับที่พารากอน บ้านเราใหญ่กว่าเยอะค่ะ
แต่ก็มีจุดที่เด็ก ๆ ชอบคือ กิจกรรมให้ระบายสีสัตว์น้ำในคอม แล้วปล่อยไป มันจะค่อย ๆ ว่าจากหน้าจอที่เราทำ จนไปออกหน้าจอกลาง 
เด็ก ๆ ระบายสีเสร็จ ก็จะคอยวิ่งไปดูว่าตัวที่พวกเขาระบาย ว่ายน้ำออกไปรึยัง ชัญญ่าบอก พรุ่งนี้หนูอยากกลับมาระบายสีนี่โม่ จัดไปค่ะ 2 รอบเลย


ออกจาก Sea life ไปต่อที่สวนสนุก ก่อนสแกนตั๋ว มีตรวจกระเป๋านะคะ อาหารห้ามนำเข้าภายใน แต่น้ำเค้าไม่ได้ว่าอะไรค่ะ น้ำในสวนขายขวดละ 4 ริงกิต เตรียมเข้าไปดีกว่าค่ะ หรือจะออกมาพักหาอะไรกินหน้าสวน ก็มีเป็น Mall เล็ก ๆ หน้าทางเข้าค่ะ
เข้าไปในสวนสนุก เด็ก ๆ ไม่คึกคักเลย เที่ยงกว่า ๆ แล้ว ไม่ยอมนอนกัน ปกตินอนหลับในรถเข็นได้ พอง่วงแต่ไม่ยอมนอน ก็ไม่มีแรงเล่นของเล่นด้วยค่ะ เข็นรถไปเรื่อย ๆ เจอโรงละคร LEGO® City Stage จะมีการแสดงตอนเที่ยงครึ่ง เรื่อง Lego Friends เข้าไปนั่งดูในห้องเย็น ๆ เสียงเพลงดัง ๆ เด็ก ๆ ค่อยคึกคักหน่อย แถมบอกหนูจะกินป๊อปคอร์น ต้องไปจัดมา 1 ชุด 22 ริงกิต มีป๊อปคอร์น 1 กล่อง กับน้ำอัดลม 1 แก้ว ตรงจุดนี้ไม่สามารถซื้อแยกได้ซะด้วย แอบแพง แถมไม่ถูกปากเด็ก ๆ เท่าไหร่ ไม่ค่อยกินกันเลย สู้ป๊อปคอร์นในโรงหนังบ้านเราไม่ได้ อร่อยมาก กินกันไม่เหลือ อันนี้คาราเมลมันออกจะเข้ม ๆ ขม ๆ นิด ๆ ค่ะ แต่ตรงจุดอื่นเราเห็นเค้าขายแยก ป๊อปคอร์นอย่างเดียว 10 ริงกิตค่ะ 
ดูจบ ออกไปเล่น Rescue Academy ต่อ เป็นการโยกรถดับเพลงให้ไปถึงจุดไฟไหม้ แล้วฉีดน้ำดับไฟ แล้วโยกรถกลับมาที่จุดเดิม ปรากฏว่าน้องภัทรเล่นไม่ได้ แม่เปิ้ลต้องพาน้องออกมาข้างนอก ปะป๊าเลยต้องพาเจ่เจ้เล่นคนเดียว กว่าจะโยกไป โยกกลับ ป๊าหมดแรงไปเลยจ้า 😆
แล้วก็ไปนั่งรถไฟ LEGOLAND® Express ชมสวนรอบ ๆ กันต่อ นั่งพักสบาย ๆ 

จากนั้นเดินชม MINILAND เด็ก ๆ ชอบมาก บางจุดจะมีที่ให้กดเสียง หรือกดแล้วเรือจะแล่น วิ่งไล่กดอันนั้นอันนี้ สนุกสานกันมากเลย

จบจากจุดนี้ ก็บ่าย 2 กว่า ๆ แล้ว เลยกลับไปรอเอาห้องที่โรงแรม ส่วนแม่เปิ้ลแยกไปซื้อข้าวกลางวันที่ Mall มีร้านอาหารเยอะอยู่ ทั้ง KFC, Berger King ร้านข้าว อาหารจีน อาหารไทย และมีซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยค่ะ สะดวกสุด บ้านเราก็ฝากท้องไว้แถว ๆ นี้ ราคาอาหารไม่แพงค่า มื้อนี้เราเลือกกินข้าวค่ะ ลองซื้อข้าวไก่ย่างร้าน TCRS ไปชิมก่อน 2 กล่อง เด็กกินเกือบหมดกล่องเลยค่ะ ไม่รู้เพราะอร่อยหรือหิว อีกกล่องนึงของป๊าบอกอร่อย รสชาติดีเลย เย็นนี้คงไม่พ้นร้านนี้

อิ่มแล้ว เล่นต่อกันอีกพักนึง ก็ไปหามุมสงบกินนมนอนค่ะ หลับไปตอนเกือบ 3 โมง พอ 3 โมงนิด ๆ ลองไปถามเอาห้อง พนง. บอกห้อง พร้อมแล้ว เข้าพักได้เลย เลยให้ป๊าเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องก่อน ปล่อยเด็ก ๆ นอนกันต่อ ไม่อยากปลุก เดี๋ยวไม่หลับต่อ ห้องพักเราคืนนี้อยู่ชั้น 2 เป็น Adventure Theme เราจองผ่านอโกด้า ช่วงที่เราจอง ราคาห้องแพงมาก เนื่องจากใกล้ช่วงตรุษจีน ราคาห้องอยู่ที่ 9,5XX บาท เราเช็คราคาห้องทุกวัน จนได้ราคา 7,4XX บาท จึงตัดสินใจจอง ก็ถือว่าลดลงไปเยอะอยู่ แต่ดูช่วงอื่น ราคาอยู่ที่ 7พันต้น ๆ เองค่ะ ถ้าหาราคาผ่าน Trip Advisor อาจจะได้ราคาที่ถูกลงไปอีก ห้องพักแบ่งออกเป็นห้องเตียงใหญ่ และห้องเตียง 2 ชั้น เด็ก ๆ ตื่นเต้นมากค่ะ ถึงขั้นอยากจะเลิกนมแม่จะได้ไปนอนเตียง 2 ชั้นกันเองเลยทีเดียว 
  
 แถมยังมีเกมหาสมบัติให้เข้ากับธีมห้องด้วย โดยมีใบบอกวิธีถอดรหัสให้เด็ก ๆ หาตัวเลข แล้วมาเปิดเซฟเอาสมบัติข้างใน
 ของในเซฟเป็นของเล่นเลโก้ 2 ถุงเล็ก ๆ ค่ะ เด็กชอบมาก
พักผ่อนกันสักพักก็จะ 4 โมงแล้ว รีบไปเล่นสวนน้ำต่อเพราะปิดแค่ 6 โมงเย็น สวนน้ำมีล็อกเกอร์กับผ้าเช็ดตัวให้เช่านะคะ ราคาสูงพอสมควร แนะนำให้เตรียมไปเองดีกว่าค่ะ รถเข็นสามารถเข็นเข้าไปได้เลย จอดข้าง ๆ เก้าอี้ที่เป็นโซนนั่งรอได้เลยค่ะ 

โซนแรกที่เด็ก ๆ ไปคือ DUPLO® Splash Safari เหมาะกับเด็กเล็กเลยค่ะ น้ำสูงไม่ถึงเข่า ไสลด์ไม่ชัน น้ำไหลช้าๆ 
พอเครื่องติดสักพัก เริ่มขับไปที่ Joker Soaker มีไสลด์หลายระดับค่ะ และมีถังน้ำยักษ์ขนาด 300 แกลลอนคอยเทลงมาให้เด็ก ๆ สนุกสนานกัน 
แล้วเราก็ไปต่อกับ Build-A-Raft River มีห่วงยางให้เล่นฟรีด้วยค่ะ จะลงน้ำวนนี้ เด็ก ๆ ต้องใส่เสื้อชูชีพที่เค้าเตรียมไว้ให้ด้วยทุกคนนะคะ 
ขึ้นไปต่อที่ LEGO® Wave Pool ไปนั่งเล่นให้คลื่นกระแทกตัว ก็สนุกดีค่ะ ยังมีอีกหลายโซนเลย แต่เด็ก ๆ ไม่ได้เล่น และ 6 โมงพอดี เค้าก็ไล่ให้ออกจากสวนน้ำแล้วค่ะ

เด็ก ๆ ไปต่อที่สระน้ำโรงแรม สระไม่ใหญ่มาก แต่เด็ก ๆ ชอบ มีเลโก้ให้เล่นเหมือนเดิม

ส่วนแม่ไปซื้อข้าวค่ะ มื้อนี้จัดหนักถึง 5 กล่อง ทั้งข้าวทั้งมี่ จ่ายไปเกือบ 60 ริงกิต อิ่มจุกกันเลยค่ะ 
 ราคาน้ำดื่มในซุปเปอร์ พอ ๆ กะบ้านเราเลยค่ะ
 อิ่มแล้วเด็ก ๆ ก็นั่งเล่นต่อเลโก้กันที่เตียง 2 ชั้น จนได้เวลานอน ก็หมดไปอีก 1 วันค่ะ


🌟🌟🌟🌟 🌝 🌟🌟🌟🌟

วันสุดท้าย

ตื่น 8 โมง สบาย ๆ 9 โมงลงไปกินอาหารเช้า ห้องอาหารน่ารักมาก แจ้งเลขห้อง แล้วจะมีคนพาไปนั่งโต๊ะ เอาเก้าอี้เด็กมาให้ด้วย 2 ตัว อาหารเยอะมาก รสชาติกลาง ๆ ไก่บ้านนี้ก็ไม่อร่อย เครื่องเทศหนักมาก ขมด้วย เน้นไข่กะไส้กรอก ขนมปังเหมือนเดิม
อิ่มแล้วขึ้นไปเก็บข้าวของ ลงมาฝากกระเป๋าไว้ แล้วไปเช็คเอ้าท์ แล้วไประบายสีปลาและเข้าสวนสนุกต่อ วันนี้วันอาทิตย์ สวนเปิด 11 โมง คนรอเข้าตรวจกระเป๋าพอประมาณ แต่ไม่เยอะมาก วันนี้ พนง. สแกนบัตรเข้าสวน ขอตรวจพาสปอร์ตน้องภัทรด้วย ว่าไม่ถึง 3 ขวบจริง ๆ เราหยิบให้ดูเสร็จก็เรียบร้อยสแกนเข้าเหมือนเดิม วันนี้ได้เล่นหลายอย่างหน่อย เราแพลนจะอยู่ในสวนสนุกถึง 4 โมง ไปรับกระเป๋าแล้วเรียก Grab ไปสนามบิน

โซนแรกที่เราไปวันนี้ คือ LEGO® TECHNIC เด็กยังไม่อยากเล่น งั้นแม่ขอจัดก่อนนะจ๊ะ Aquazone® Wave Racers แถวสั้นมาก รอไม่นานเลย ก็สนุกดีค่ะ ได้เปียกนิดๆหน่อย ๆ

ถัดมาแม่จัด The Great LEGO Race เป็นรถไฟเหาะแต่ให้ใส่หน้ากาก VR เล่นเสร็จแอบเวียนหัวนิดหน่อย แม่ชอบแบบของจริงมากกว่า เสร็จแล้วพาเด็กไปหาที่เล่นบ้าง เดินไปที่โซน IMAGINATION มีห้องให้นั่งเล่นต่อเลโก้ Build & Test เด็ก ๆ ชอบมากเลยค่ะ ห้องแอร์ด้วย เย็นดี 
แถว ๆ นี้ มีรถขายอาหาร ราคาไม่แพงค่ะ นักเก็ต 9 ชิ้น 12 ริงกิต ดูที่ร้าน King's Grill 25 ริงกิตแน่ะ จัดนักเก็ต 1 กล่อง และขนมปังไส้กรอก 1 ชิ้น 18 ริงกิตค่ะ อิ่มแล้ว เดินเล่นต่อ 
ไปที่โซน LEGO® KINGDOMS ช่วงที่เจ้เล่นขี่ม้าที่ Royal Joust เองคนเดียวได้ ป๊าดูน้อง แม่ก็จะหนีไปเล่น The Dragon ปรากฏว่า เครื่องเล่นปิดชั่วคราวเพราะเหตุผลทางเทคนิคนิดหน่อย อดเล่นเลย
 เดินต่อไปเรื่อย ๆ มีได้เล่นอีกนิดหน่อย เด็กหลับ พ่อแม่ได้เล่นล่องแก่ง Dino Island กับ LEGO® NINJAGO® THE RIDE ด้วย 
 ดูเวลา 3 โมงกว่า ๆ แล้ว เลยเข็นเด็กกลับโรงแรม ไปเตรียมตัวเรียกรถกลับบ้าน
 เราเรียก Grab ได้ที่ราคา 39 ริงกิต ระหว่างทาง มีค่าทางด่วนอีก 3.9 ริงกิต รวมจ่ายไป 43 ริงกิตค่ะ
เดินเข้าในสนามบิน แอร์เอเชียมี Kios ให้ทำเช็คอินเองหลายตู้มากเลยค่ะ เสร็จแล้วค่อยเข้าไป Drop กระเป๋าถ้ามี

เราไปโหลดรถเข็นค่ะ ใช้เวลาพอประมาณ เสร็จแล้วก็ไปหาอะไรกินก่อน แล้วก็เข้าไปในส่วนผู้โดยสาร เครื่องบินออกตรงเวลา ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพค่ะ 

สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ ตกคนละ 6,066 บาทค่ะ

ขอบคุณที่ติดตามอ่าน

แล้วเจอกันทริปหน้าค่ะ

 🌟🌟🌟🌟 🌝 🌟🌟🌟🌟


รีวิว โรงแรม KSL Hotel & Resort Johor Bahru 👇👇👇👇👇

*******************************
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านนะคะ แล้วเจอกันทริปหน้าค่ะ
ฝากกด Like + Share + Subscribe ด้วยค่ะ
หรือไปพูดคุยกันได้ตามข้างล่างนี้เลยนะคะ
https://www.facebook.com/twolittlebosses/
https://www.youtube.com/2littlebosses